เค้กไข่ไต้หวัน ขนมยอดนิยม แสนอร่อย

เค้กไข่ไต้หวัน ขนมยอดนิยม แสนอร่อย

เค้กไข่ไต้หวัน เป็นเค้กที่มีรสอร่อย เนื้อเค้กนุ่มเด้ง ละลายในปากได้ทันที มักมีหน้าเค้กที่เรียบเนียน ไร้รอยแตก ทำได้ง่ายเพราะใช้ส่วนผสมไม่มาก มีจุดเด่นที่เค้กไข่ชนิดนี้จะใช้ไข่ทั้งฟองตีรวมกัน มักต้องหล่อน้ำเอาไว้ในช่วงที่กำลังอบเพื่อรักษาหน้าเค้กให้เนียรส่วนน่ารับประทาน บางสูตรอาจมีการตีแยกระหว่างไข่ขาว และไข่แดง เพื่อให้เนื้อฟูเค้งมากขึ้น หรือนำน้ำมันพืชมาใช้แทนเนย เพื่อให้กลิ่นไข่โดดเด่นมากขึ้น จึงให้รสชาติ และเนื้อสัมผัสของเค้กที่โดดเด่นเป็นอย่างมาก

ที่มาของรูปภาพ www.pinterest.com/pin/598908450442927658/

เค้กไข่ไต้หวัน เป็นเมนูขนมอบที่เน้นความอร่อยของวัตถุดิบจากธรรมชาติ มักไม่ต้องเติมผงฟู หรือสารเสริมคุณภาพใดๆ ก็ขึ้นฟูนิ่มเด้งน่าเอร็ดอร่อยแล้ว

  1. เค้กไข่ไต้หวันแบบมาตรฐาน ถือเป็นวิธีการทำแบบพื้นฐานที่ง่าย และไม่ซับซ้อนเลย ไร้สารเสริมคุณภาพ จึงสามารถทำได้บ่อยตามต้องการ

ส่วนประกอบ

  • ไข่ไก่ แยกส่วนไข่แดงและไข่ขาวเตรียมไว้ 7 ฟอง
  • แป้งเค้ก 150 กรัม
  • เกลือป่น ¼ ช้อนชา
  • นมข้นจืด 145 กรัม
  • กลิ่นวานิลลาสกัด 2 ช้อนชา
  • น้ำมันพืช 100 กรัม
  • น้ำมะนาว 1 ช้อนชา
  • น้ำตาลทราย 100 – 120 กรัม (ปรับได้ตามความต้องการ)
  • แป้งข้าวโพด 1 ช้อนชา

วิธีการทำเค้กไข่ไต้หวัน

  1. เตรียมแม่พิมพ์ขนาดกว้าง 7 x 11 นิ้ว สูง 2 นิ้ว ทาไขมันหรือเนยบนถาดและกรุกระดาษไขเตรียมไว้
  2. เตรียมส่วนผสมไข่แดง โดยร่อนแป้งเค้กกับเกลือป่น ประมาณ 2 รอบ เพื่อกรองเศษฝุ่น และเพิ่มอกาศเข้าไปในเนื้อแป้ง แป้งก็จะฟูและเบามากขึ้น
  3. อุ่นน้ำมันพืชให้ร้อน โดยนำไปใส่หม้อแล้วตั้งไฟจนน้ำมันร้อน หรือนำน้ำมันพืชเข้าไมโครเวฟนานประมาณ 30 วินาที นำส่วนผสมแป้งเค้กมาผสมกับน้ำมันในขณะที่นังร้อน เป็นขั้นตอนที่ทำให้เค้กมีความนุ่มฟู และบางเบามากขึ้น เพราะไขมันจะเคลือบแป้งเอาไว้ แป้งจึงไม่สัมผัสกับน้ำ เพราะน้ำหรือของเหลวคือส่วนผสมที่ทำให้เกิดกลูเตนค่ะ กลูเตนซึ่งมีความเหนียวจะทำให้เค้กไข่เหนียวมากขึ้นได้
  4. ใช้ไม้พายคนจนส่วนผสมคลายร้อน เติมนมข้นจืด แล้วคนผสมจนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน
  5. เติมไข่แดง และกลิ่นวานิลลาตามลงไป ใช้ไม้พายคนผสมจนเข้ากัน แล้วพักส่วนผสมเอาไว้
  6. เตรียมส่วนผสมไข่ขาว โดยตีไข่ขาวจนเกิดฟองหยาบ ๆ จากนั้นใส่น้ำมะนาว ซึ่งจะช่วยทำให้ไข่ตีขึ้นฟูได้ง่ายมากขึ้น และฟองอากาศจะคงตัวได้ดีมากขึ้น ไม่ยุบตัวได้ง่าย เมื่อตีจนเข้ากัน ให้เติมแป้งข้าวโพด แล้วผสมพอเข้ากัน
  7. ค่อย ๆ ใส่น้ำตาลทรายลงไปทีละน้อย การใส่น้ำตาลครั้งละมาก ๆ น้ำตาลจะละลายยาก และจะเสียฟองอากาศได้ง่าย ตีผสมด้วยความเร็วจนไข่ขาวตั้งยอดอ่อน ๆ
  8. แบ่งส่วนผสมไข่ขาวออกเป็นส่วน ๆ เพื่อนำไปผสมกับส่วนผสมไข่แดงทีละส่วนด้วยการตะล่อมเบา ๆ จนเข้ากัน จะได้ส่วนผสมที่เนียนละเอียดเข้ากัน
  9. เทส่วนผสมลงในพิมพ์ที่เตรียมไว้ เคาะพิมพ์เพื่อไล่ฟองอากาศ 1 – 2 ครั้ง หรือใช้ไม้จิ้มฟันเจาะฟองอากาศให้แตกออก เนื้อเค้กจะเนียนสวย ไม่มีรูพรุน
  10. นำเข้าเตาอบ อบที่อุณหภูมิ 150 – 160 องศาเซลเซียส โดยวางพิมพ์ลงบนถาดที่มีน้ำร้อนรองเอาไว้ อบเป็นเวลานาน 35 – 40 นาที หรือจนกว่าเค้กจะสุก การรองน้ำจะช่วยรักษาเนื้อเค้กให้ชุ่มชื้น จึงละลายในปากได้ทันทีที่เคี้ยว หากไม่แน่ใจว่าเค้กสุกดีหรือไม่ ให้ใช้ไม้ปลายแหลมจิ้มลงไปในเนื้อเค้ก ต้องไม่มีเศษเค้กเปียก ๆ ติดไม้ออกมา
  11. เมื่ออบเสร็จพักให้อุ่นลง โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที จึงค่อยนำเค้กออกมาจากแม่พิมพ์ ลอกกระดาษไขออก จากนั้นพลิกเค้กอีกด้านขึ้นมา แล้วตัดให้ได้ขนาดตามต้องการ
ที่มาของรูปภาพ www.pinterest.com/pin/98234835594074015/

เค้กไข่ไต้หวันครีมสด Sexybaccarats168.com เป็นเค้กไข่ที่เพิ่มความหอมมันของครีมสด จนเกิดความหอมมันควบคาไปกับความหวานละมุนของเนื้อไข่นั่นเอง เวลารับประทานจะแตกต่างกับเค้กไข่แบบอื่น ๆ เพราะควรรับประทานในขณะที่เย็นอยู่ เพราะเนื้อครีมจะเช็ตตัว มีความหอมมัน และน่ารับประทานมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังนำวิปปิ้งครีมที่เตรียมไว้มาตกแต่งหน้าเค้กให้สวยงาม อาจเพิ่มแยมผลไม้ชนิดต่าง ๆ หรือถั่วที่อบกรอบ ๆ มาตกแต่งเพิ่มเติม ให้ได้ทั้งความสวยงามและรสชาติที่อร่อยเพลิน นำมารับประทานเอง หรือนำไปเป็นของฝากให้เพื่อนฝูงก็ได้

ส่วนประกอบ

  • ไข่ไก่ 5 ฟอง แยกไข่แดงและไข่ขาวเตรียมไว้
  • กลิ่นวานิลลาสกัด 1 ช้อนชา
  • น้ำมันรำข้าว 55 กรัม หรือใช้น้ำมันพืชชนิดอื่น ๆ แทนได้
  • นมสดรสจืด 60 กรัม
  • แป้งเค้ก 70 กรัม
  • น้ำตาลทราย 70 กรัม
  • น้ำมะนาว ½ ช้อนชา
  • วิปปิ้งครีมชนิดหวาน 70 กรัม

วิธีการทำ

  1. เตรียมแม่พิมพ์ขนาด 8×8 นิ้ว จำนวน 2 ถาดเอาไว้ โดยทาน้ำมันและกรุด้วยกระดาษไขเตรียมไว้ก่อน
  2. นำมันรำข้าวอุ่นด้วยเตาไมโครเวฟนานประมาณ 1 นาที จากนั้นนำไปผสมกับแป้งเค้กในขณะที่น้ำมันยังร้อนอยู่ ตะล่อมให้เข้ากัน เติมนมจืดตามลงไป คนหรือตะล่อมผสมให้เข้ากัน
  3. ค่อย ๆ ใส่ไข่แดงเติมลงไป ตะล่อมจนส่วนผสมเข้ากัน ตามด้วยกลิ่นวานิลลา
  4. ตีไข่ขาวด้วยความเร็วจนเกิดฟองหยาบ ๆ  เติมน้ำมะนาวลงไป ตีผสมให้พอเข้ากัน ทยอยใส่น้ำตาลทรายลงไปทีละน้อย ตีจนไข่ขาวตั้งยอดอ่อน ๆ
  5. แบ่งส่วนผสมไข่ขาวออกเป็น 3 ส่วน ค่อย ๆ ตะล่อมแต่ละส่วนในส่วนผสมแป้งจนเข้ากัน ทำทีละส่วนจนส่วนผสมไข่ขาวหมด เนื้อเค้กจะเนียนและมีสีค่อนข้างอ่อน
  6. เทใส่แม่พิมพ์ที่เตรียมเอาไว้ อบที่อุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียส โดยรองแม่พิม์ไว้บนถาดที่มีน้ำร้อน อบนานประมาณ 35-40 นาที นำเค้กออกจากพิมพ์ และพักบนตะแกรงจนเย็นสนิทก่อน แล้วตัดแบ่งเค้กเป็นชั้น ๆ
  7. ตีวิปปิ้งครีมด้วยความเร็วในขณะที่วิปปิ้งครีมกำลังเย็นจัดจนตั้งยอดแข็ง
  8. ปาดวิปปิ้งครีมลงบนเค้กแต่ละชั้น แล้วนำมาวางประกบกัน แช่ในตู้เย็นสัก 1 – 2 ชั่วโมงจนครีมเซตตัว
  9. นำมาตัดแบ่งให้ได้ขนาดตามต้องการ
ที่มาของรูปภาพ www.pinterest.com/pin/52846995617095130/

Credit by : Ufabet

Tags
คานาเล่ รสชาติ คานาเล่ วิธีทำ คีโต คุกกี้ ชีสเต้ก ทิรามิสุ บราวนี่ วิธีทำมูสเค้ก วิธีทำเค้กนมสด วิธีทำแพนเค้ก สูตรขนมไม่ใช้เตาอบ สูตร คานาเล่ สูตรคุกกี้ สูตรทิรามิสุ สูตรบราวนี่ สูตรมูสเค้ก สูตรเค้ก สูตรเค้กนมสด สูตรเบอเกอรี่ สูตรเบเกอรี่ สูตรแพนเค้ก สูตร โอริโอ้ ส่วนผสมแพนเค้ก เค้ก เค้กกล้วยหอม เค้กช็อกโกแลต เค้กทิรามิสุ เค้กนมสด เค้กฝอยทอง เค้กโอริโอ้ เค้กไข่ เค้กไข้ไต้หวัน เบเกอรี่ เมนูแพนเค้ก แพนเค้ก แพนเค้กกล้วยหอม แพนเค้กกล้วยหอม คลีน แพนเค้กข้าวโอ๊ต โอริโอ้ โอริโอ้ชีสเค้ก โอริโอ้ชีสเค้ก วิธีทำ โอริโอ้ชีสเค้ก ไม่ใส่วิปครีม โอริโอ้ปั่น โอริโอ้แท่ง โอริโอ้โรล