เค้กคีโต ไมโครเวฟ (ไม่ใช้เตาอบ) คือเค้กที่ไม่ใช้แป้งเป็นส่วนประกอบเหมือนกับเค้กทั่วไป เพื่อลดการบริโภคแป้ง แต่เน้นการบริโภคโปรตีนและไขมันทดแทน ซึ่งเป็นหลักการรับประทานแบบคีโตจินิค ซึ่งเมื่อลดการบริโภคคาร์โบไฮเดรตอย่างสม่ำเสมอนั้น จะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสามารถนำไขมันและโปรตีนมาใช้เป็นพลังงานทดแทนคาร์โบไฮเดรต จึงนิยมบริโภคในหมู่ผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก แต่หากอยากรับประทานเค้ก ก็มีสามารถรับประทานเค้กคีโตทดแทนเค้กทั่วไปได้ ซึ่งในปัจจุบันได้มีการพัฒนาสูตรให้สามารถปรุงด้วยไมโครเวฟได้ เพื่อให้ทำได้สะดวก ไม่ต้องใช้เตาอบก็สามารถกินเค้กคีโตอร่อย ๆ ได้
ที่มาของรูปภาพ www.pixabay.com/th/photos/ชีสเค้ก-quark-ครีม-เค้ก-rahmkuchen-2867614/
สูตรเค้กคีโต ไมโครเวฟ (ไม่ใช้เตาอบ) อย่างง่าย
- ชีสเค้กคีโต ไมโครเวฟ (ไม่ใช้เตาอบ) มีสูตรและวิธีการทำที่ง่ายมาก ใช้ส่วนผสมไม่กี่อย่างเท่านั้น เวลารับประทานสามารถเพิ่มรสชาติของชีสเค้กด้วยผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ หรือช็อกโกแลตแบบเข้มข้นก็ได้ หรือเพิ่มวิปปิ้งครีมแบบคีโตเพิ่มความหอมมัน จะกินเปล่า ๆ หรือกินกับเครื่องดื่มอร่อย ๆ สักแก้ก็ได้
ส่วนประกอบ
- ครีมชีส 60 กรัม
- กลิ่นวนิลาสกัด ¼ ช้อนชา
- น้ำเชื่อมจากหญ้าหวาน ½ ช้อนชา (หากไม่มีสามารถใช้สารให้ความหวานแทนน้ำตาล 50 กรัมทดแทนได้)
- ไข่ไก่ 1 ฟอง (ฟองใหญ่)
วิธีการทำ
- อุ่นครีมชีสในไมโครเวฟนานประมาณ 15 วินาที หรือจนกว่าครีมชีสจะนิ่ม พร้อมสำหรับการผสมกับส่วนผสมอื่น ๆ
- เติมกลิ่นวนิลา และน้ำเชื่อมจากหญ้าหวาน ใช้ไม้พายคนส่วนผสมต่าง ๆ ให้เข้ากัน
- ตอกไข่ใส่ลงไป คนส่วนผสมต่าง ๆ จนเนียนเข้ากันดี
- นำส่วนผสมทั้งหมดใส่ในภาชนะที่พร้อมรับประทาน นำเข้าอบในไมโครเวฟใช้ไฟปานกลางอบนานประมาณ 90 วินาที
- ทิ้งชีสเค้กคีโต ไมโครเวฟ (ไม่ใช้เตาอบ) จนเย็นและเชตตัว จากนั้นสามารถใช้มีดค่อย ๆ แซะตามขอบของภาชนะ แล้วคว่ำเพื่อให้ชีสเค้กตกลงมาบนจานอย่างระมัดระวัง
- สามารถรับประทานได้ทันที หรือเก็บไว้ในตู้เย็นอย่างน้อย 15 นาที ก่อนนำไปเสิร์ฟ
ที่มาของรูปภาพ www.pixabay.com/th/photos/เค้ก-หวานคอแร้ง-สูตรอาหาร-ชิ้น-1971556/
- มัทฉะลาวา เค้กคีโต ไมโครเวฟ (ไม่ใช้เตาอบ) เป็นอีกสูตรที่ทำได้ง่าย มีความหอมของมัทฉะมาทำให้เกิดความเพลิดเพลินในทุก ๆ ครั้งที่รับประทานอีกด้วย
ส่วนประกอบ
- แป้งอัลมอนด์ 3 ช้อนโต๊ะ
- ผงมัทฉะชาเขียว 2 ช้อนชา
- สารให้ความหวานแทนน้ำตาล 50 กรัม
- ผงฟูแบบไร้นํ้าตาล ½ ช้อนชา
- ไข่ไก่ 1 ฟอง (ไข่ไก่ขนาดกลาง)
- เนยสดชนิดจืดละลาย 1 ช้อนโต๊ะ
- นมจืด 2 ช้อนโต๊ะ
- ผงวนิลลา 1 ช้อนชา หากไม่มีสามารถใช้วนิลลาสกัด 1 ช้อนโต๊ะแทนได้
ส่วนประกอบสำหรับทำซอส
- เนยจากมะพร้าว 2 ช้อนโต๊ะ
- นมจืด 1 ½ ช้อนโต๊ะ
- สารให้ความหวานทดแทนน้ำตาล 5 กรัม
วิธีการทำ
- ใส่เนยละลาย ผงมัทฉะ สารให้ความหวานแทนน้ำตาล และนมจืดลงในอ่างผสม คนส่วนผสมต่าง ๆ ให้เข้ากัน
- ตีไข่ไก่ให้ไข่แดงและไข่ขาวเป็นเนื้อเดียวกันก่อน ใช้ประมาณ 3 ช้อนโต๊ะ โดยนำมาคนผสมกับส่วนผสมเนยที่เตรียมเอาไว้
- เติมผงวนิลลา ผงฟู แป้งอัลมอนด์ แล้วนำไปร่วมกับส่วนผสมอื่น ๆ คนทุกอย่างให้เนียนเข้ากันดี
- ทําซอสโดยนำเนยมะพร้าว นมจืด และสารให้ความหวานแทนน้ำตาล คนผสมให้เข้ากัน และมีลักษณะค่อนข้างเหลว
- นําส่วนผสมเค้กเทลงในแม่พิมพ์ แนะนำให้ใช้ถ้วยพุดดิ้ง จากนั้นนำส่วนผสมเข้าไมโครเวฟตั้งความร้อนประมาณ 900 วัตต์ ตั้งเวลาครั้งละ 1 นาที คอยนำออกมาดูว่าเค้กคีโต ไมโครเวฟ (ไม่ใช้เตาอบ) สุกดีหรือไม่ ด้วยไม้จิ้มฟันจิ้มดูว่าส่วนผสมที่เปียกติดออกมาหรือไม่
- เมื่อสุก ทิ้งให้เค้กเซตตัวก่อนนำออกมาจากแม่พิมพ์ นําซอสที่เตรียมไว้ราดลงบนเค้ก จากนั้นจึงโรยผงมัทฉะให้ทั่วชิ้นขนม เท่านี้ก็พร้อมรับประทานแล้ว
- พานนา คอตตา เค้กคีโต ไมโครเวฟ (ไม่ใช้เตาอบ) ที่มีเนื้อนุ่ม ๆ ละมุนลิ้น ยิ่งเมื่อแช่เย็นจนได้ที่ เวลารับประทานก็จะรู้สึกอร่อยชื่นใจเป็นอย่างมากเลยทีเดียว
ส่วนประกอบสำหรับทำซอสสตรอเบอร์รี่
- สตรอเบอร์รี่แช่แข็ง 60 กรัม หากมีสตรอเบอรี่สดก็สามารถใช้ได้เช่นกัน
- น้ำเปล่า 180 มิลลิลิตร
- สารให้ความหวานแทนน้ำตาล 50 กรัม
- แผ่นเจลาติน 2 แผ่น
ส่วนประกอบสำหรับทำซอสบลูเบอร์รี่
- บลูเบอร์รี่แช่แข็ง 50 กรัม หากมีบลูเบอร์รี่สดก็สามารถใช้ได้เช่นกัน
- น้ำเปล่า 100 มิลลิลิตร
- สารให้ความหวานทดแทนน้ำตาล 20 กรัม
- แผ่นเจลาติน 1 แผ่น
ส่วนประกอบพานนาคอตตา
- นมอัลมอนด์ 150 มิลลิลิตร
- วิปปิ้งครีมแบบคีโต 200 มิลลิลิตร
- สารให้ความหวานแทนน้ำตาล 50 กรัม
- แผ่นเจลาติน 3 แผ่น
วิธีการทำ
- แช่แผ่นเจลาตินทั้งหมดลงในน้ำจนนิ่ม อาจแยกจำนวนแผ่นตามส่วนประกอบในสูตรต่าง ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เวลาที่เจลาตินละลายอาจติดกันจนแยกไม่ออก
- เริ่มทำซอสสตรอว์เบอร์รีก่อน โดยนำสตรอว์เบอร์รี น้ำ และสารให้ความหวานแทนน้ำตาลไปเข้าในถ้วนผสม ใส่เตาไมโครเวฟใช้ไฟอ่อน ๆ นานประมาณ 3 นาที นำออกมาคนส่วนผสมต่าง ๆ ให้ละลายเข้ากัน นำเข้าไมโครเวฟครั้งละ 2 นาที นำออกมาคนใหม่ จนเนื้อสตรอว์เบอร์รีนิ่ม และมีน้ำเชื่อมสีแดงละลายออกมา สามารถใช้ได้เลย หรือกรองผ่านกระชอนเพื่อกรองเอาแต่น้ำ หากไม่ชอบให้มีเนื้อหยาบ
- ในขณะที่ซอสสตรอว์เบอร์รียังอุ่นอยู่ ใส่แผ่นเจลาตินที่นิ่มแล้วลงไป คนจนเจลาตินละลายเข้ากันกับน้ำสตรอเบอรี่ได้ดี
- นำภาชนะที่ต้องการใช้ มาใส่ซอสลงไปประมาณ 45 องศา แล้วค่อย ๆ หยอดซอลลงไป ให้ได้ประมาณ ¼ ของภาชนะ นำเข้าตู้เย็นจนเซตตัว
- ทำส่วนของซอสบลูเบอร์รี โดยมีขั้นตอนเดียวกับซอสสตรอเบอร์รี่ และเมื่อใส่แผ่นเจลาตินแล้วให้นำภาชนะที่มีซอสสตรอเบอร์รี่ออกมาตรวจดูก่อนว่าเซตตัวดีหรือไม่
- เมื่อซอสสตรอว์เบอร์รีเซตตัวแล้ว จึงเทซอสบลูเบอร์รี่ลงไปประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ นำไปแช่เย็นรอให้เซตตัวอีกชั้น
- ทำส่วนของพานาคอตต้าครีม โดยเทนมอัลมอนด์ และวิปปิ้งครีมลงในภาชนะ คนให้เข้ากัน แล้วเติมสารให้ความหวานทดแทนตามลงไป
- นำเข้าเตาไมโครเวฟใช้ไฟต่ำ ๆ นานประมาณ 3 นาที หรือจนกว่าสารให้ความหวานแทนน้ำตาลจะละลายจนหมด จึงใส่แผ่นเจลาที่นิ่มแล้วลงไป คนให้เข้ากัน
- จากนั้นนำมาใส่ลงในภาชนะเป็นชั้นที่ 3 ก่อนนำไปแช่เย็นจนเซตตัว ก่อนเสิร์ฟสามารถตกแต่งด้วยบลูเบอร์รี่ และสตรอว์เบอร์รีก็ได้