ทาร์ตชาเขียว บ่อยครั้งที่เวลาเราไปคาเฟ่ เรามักจะเห็น ‘ทาร์ตชาเขียว’ แต่หลายคนคงสงสัยว่าทาร์ตชาเขียวนี้หน้าตาเป็นอย่างไร แล้วมีกรรมวิธีในการทำอย่างไร บทความนี้จะชวนทุกคนมาลงครัวกันค่ะ

สำหรับส่วนผสมของการทำทาร์ตชาเขียว มีดังต่อไปนี้เลยค่ะ
- ผงชาเขียวสำหรับโรย
- ดอกมะลิสำหรับตกแต่ง
- อุปกรณ์ พิมพ์ทาร์ตวงกลมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 17.5 ซม. จำนวน 1 พิมพ์ ไม้คลึงแป้ง กระดาษไข ถั่ว และแผ่นอบซิลิโคนสำหรับรองอบ
- แป้งทาร์ต
- แป้งสาลีอเนกประสงค์370 กรัม
- น้ำตาลทราย60 กรัม
- เกลือป่น1/8 ช้อนชา
- เนยสดชนิดจืดเย็นจัด200 กรัม
- ไข่ไก่ตีพอเข้ากัน25 – 27 กรัม
- ไส้ชาเขียว
- ไวท์ช็อกโกแลต150 กรัม
- นมสดชนิดจืด105 กรัม
- ผงชาเขียว7 กรัม
- ครีมชีสพักให้นุ่ม130 กรัม
สำหรับกรรมวิธีในการทำทาร์ตชาเขียวมีดังต่อไปนี้ มาดูกันเลยค่ะ
ขั้นตอนแรก เริ่มต้นจากทำแป้งทาร์ตโดยร่อนแป้งสาลี น้ำตาลทราย และเกลือ เข้าด้วยกัน ใส่เนยจืดเย็น ปลายนิ้วมือถูแป้งกับเนยจนแป้งเข้ากันดี ส่วนผสมมีลักษณะคล้ายเม็ดทรายหยาบๆ ใส่ไข่ไก่ นวดแป้งให้เข้ากันเป็นก้อนเดียว ห่อแป้งทาร์ตด้วยพลาสติกแรป นำเข้าแช่ในตู้เย็นช่องธรรมดาอย่างน้อย 30 นาที จนถึง 1 ชั่วโมง
ต่อจากนั้นระหว่างนั้นทำไส้ชาเขียวโดยใส่น้ำลงในหม้อประมาณ ¼ ของหม้อ ยกขึ้นตั้งบนไฟกลางจนเดือด ลดเป็นไฟอ่อนจากนั้นใส่ไวท์ช็อกโกแลตและนมสดลงในอ่างผสม ยกอ่างขึ้นวางบนหม้อน้ำเดือดอ่อนๆ (ระวังอย่าให้ก้นอ่างผสมสัมผัสน้ำเดือด เพราะจะทำให้ไวท์ช็อกโกแลตร้อนเกินไป) รอจนไวท์ช็อกโกแลตเริ่มละลาย ใส่ผงชาเขียวลงในอ่างผสม คนด้วยพายยางจนส่วนผสมเข้ากันดี ใช้พายยางบี้ครีมชีสที่นุ่มให้เป็นเนื้อเดียวกัน แบ่งครีมชีสลงในอ่างผสมไวท์ช็อกโกแลต ใช้ตะกร้อมือคนให้ส่วนผสมครีมชีสกับไวท์ช็อกโกแลตให้เข้ากันดี ทำจนหมด (ถ้าครีมชีสเป็นเม็ดให้กรองด้วยกระชอนตาถี่อีกครั้ง) ยกลงจากหม้อ พักไว้
ขั้นตอนต่อมา เราจะนำแป้งทาร์ตออกจากตู้เย็น พักไว้ 10 นาที หรือจนแป้งคลายความเย็นลง คลึงแป้งทาร์ตหนาประมาณ 2 มม. นำแป้งกรุลงในพิมพ์ตัดขอบแป้งส่วนเกินออก ใช้ส้อมจิ้มด้านล่างแป้งทาร์ตให้ทั่ว พักไว้ในตู้เย็นอีกประมาณ 30 นาที ระหว่างนั้นอุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส พอแป้งทาร์ตครบกำหนด วางกระดาษไขลงบนแป้งทาร์ต นำถั่ววางทับลงบนกระดาษไข (เพื่อป้องกันแป้งทาร์ตยกตัวเวลาอบ) นำเข้าเตาอบที่อุ่นไว้ อบนานประมาณ 15 นาที นำออกจากเตา เอากระดาษไขและถั่วออก ลดไฟลงเหลือ 170 องศาเซลเซียส อบต่ออีก 8 นาที นำออกจากเตาอบ พักให้หายร้อนก่อนนำออกจากพิมพ์
ต่อมาเราจึงใส่ไส้ชาเขียวให้เต็มแป้งทาร์ต นำไปพักในตู้เย็นประมาณ 10 นาที เพื่อให้ไส้ชาเขียวเช็ตตัว โรยด้วยผงชาเขียว ตกแต่งด้วยดอกมะลิ
ทาร์ตชาเขียว ที่ทำจากแป้งทาร์ตมีส่วนผสมของอะไรบ้าง?

หลายคนอาจจะสงสัยว่าแป้งทาร์ต์ที่เราใช้ทำ ‘ทาร์ตชาเขียว’ นี้มีส่วนประกอบหรือส่วนผสมของอะไรบ้าง บทความนี้จะมาเฉลยปัญหานี้กันค่ะ
มาทำความรู้จักทาร์ตเลยค่ะ สำหรับส่วนประกอบหลักของการทำ Shortcrust Pastry หรือแป้งทาร์ต มีดังต่อไปนี้เลย แป้ง, น้ำตาล, เกลือ น้ำ, ไข่ และ เนย ค่ะ มีแค่ 5 ส่วนผสมเท่านี้จริงๆค่ะ
สำหรับกรรมวิธีในการทำแป้งทาร์ตเราจะเริ่มจาก การนำของแห้งมาผสมรวมกันกับไขมันด้วยวิธีการ Rubbed ซึ่งเป็นการใช้ฝ่ามือส่วนบนถูส่วนของแป้งและเนยให้เข้ากันจนเกิดเป็นลักษณะที่เรียกว่าเม็ดทราย
หรือถ้าหากบ้านใครมีเครื่องผสมของแห้งหรือ Food Processor แทงบอลออนไลน์ ก็สามารถช่วยทุ่นแรงในการทำได้เช่นกัน จากนั้นเราก็จะใส่ในส่วนของเหลวลงไปเพื่อเป็นตัวช่วยในการเชื่อมระหว่างแป้งกับเนยให้เกาะตัวรวมกันเป็นก้อน แล้วจคงนำไปพักไว้ในตู้เย็นช่องธรรมดาประมาณ 1 ชั่วโมง เพื่อให้แป้งได้ดูดซับของเหลวและไขมันเต็มที่ก่อนนำมาคลึงเป็นแผ่นเพื่ออัดลงพิมพ์และเมื่ออัดแป้งลงในพิมพ์
จากนั้นก็จะทำการพักแป้งอีกครั้งประมาณ 30 นาที – 1 ชั่วโมง ก่อนจะนำแป้งเข้าอบการพักแป้งในแต่ละครั้งมักใช้ระยะเวลาในการพักพอสมควร โดยใช้หลักการเดียวกับการทำขนมปังนั่นคือพักให้แป้งได้ทำงานดูดซับของเหลวและไขมันต่างๆ ให้เต็มที่ก่อนนำมาขึ้นรูปหรือนำไปอบอีกด้วยค่ะ
ข้อแตกต่างระหว่าง ทาร์ตและพาย ?

หลายคนที่อาจจะกำลังสงสัยเหมือนกัน ว่า “พาย (pie) และ ทาร์ต (tart) นั้นแตกต่างกันไหม” บทความนี้จะมาสรุปคำตอบของความแตกต่างให้สาวกพายและทาร์ตกันค่ะ มาดูกันเลยค่ะ
สำหรับพาย (pie) ลักษณะของฐานของพายมีทั้งแบบต้องอบซึ่งส่วนมากมักทำจากเพสทรีโดว์และพายแบบไม่อบ ส่วนมากมักทำจากบิสกิต คุกกี้บดผสมเนย อีกด้วยค่ะ ซึ่งแตกต่างจากทาร์ต ฐานครัสท์ของทาร์ตจะบางและไส้ทาร์ตมักจะเตี้ย ไม่ค่อยจะสูงมาก เพื่อให้กินกับฐานแล้วให้ความรู้สึก อร่อยพอดิบพอดี ไม่มากหรือน้อยจนเกินไปค่ะ นอกจากนี้ความตื้นลึกของพายจะประมาณเท่าไหร่ก็ได้ค่ะ จะตื้นๆ ใส่ไส้ได้เบาๆ หรือจะลึก ก็ได้ทั้งนั้น ซึ่งจุดนี้เองที่ทำให้มนุษย์เราสามารถแยกทาร์จตกับพายออกจากกันได้ดีเลยทีเดียวค่ะ
นอกจากนี้พายมีทั้งแบบเปิดหน้า หรือมีฝา และมีทั้งคาวและหวาน รวมไปถึงขนาดของพายจะเล็กหรือใหญ่ก็ได้ไม่ติดค่ะ แต่ขนาดของทาร์ตควรจะเล็กเพื่อให้พอดีคำเวลารับประทานอีกด้วยค่ะ
ทาร์ตนั้นมักเน้นรสชาติที่อร่อยให้มีรสชาติที่ลงตัวระหว่างแป้งทาร์ตและตัวไส้อีกด้วยค่ะ
นอกเหนือไปจากการเน้นความสวยงาม พิมพ์สำหรับทาร์ตพักเป็นพิมพ์ที่ถอดก้นได้ เวลาเสริ์ฟขนม สามารถตกแต่งบนจานได้อย่างสวยงาม นอกจากนี้ และทาร์ตจะไม่มีฝา คือมักจะเปิดหน้าและเราก็สามารถรังสรรค์ขนมทาร์ตของเราได้อย่างเต็มที่เลยค่ะ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับสูตรการทำ ‘ทาร์ตชาเขียว’ นี้ ถูกใจโดนใจสาวกสายทาร์ตกันบ้างไหมคะ นอกเหนือไปจากความอร่อยแล้วการแยกชนิดของแป้งระหว่างทาร์ตกับพายควรแยกให้ถูกค่ะเพื่อที่เราจะได้ขนมที่มีรสชาติอร่อยและยังมีความยูนีคสุดๆกันไปเลยค่ะ